31 ส.ค. 2555 20:00 น. ณ shinjuku willer express bus
ผมกำลังนั่งใจจดใจจอ รอขึ้นรถบัส เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดฮิโรชิม่า
อีกประมาณ 10 นาทีเขาคงจะเรียกผม ให้ไปเข้าแถว
แต่ผมคงฟังไม่ออกหรอก
อาศัยเดินตามๆเขาไป...
ผ่านมาอาทิตย์นึงแล้วสินะ
ที่ผมได้มาอยู่ที่ญี่ปุ่น
เมืองที่ผมใฝ่ฝันว่าอยากจะมาเยือนอีกสักครั้ง
ครั้งนี้ต้องขอบคุณน้องสาวผมมาก
ที่พาผมไปนู้นไปนี้
แถมเลี้ยงข้าวผมอีกต่างหาก
แต่นับจากนี้ ผมคงต้องเดินทางคนเดียวแล้ว
(จ่ายตังค์เองอีกต่างหาก TT TT" )
ผมรู้สึกหวั่นๆกับการไป wwoof ยังไงก็ไม่รู้
อาจจะเพราะผมต้องเดินทางคนเดียว
ในประเทศที่ผมไม่เข้าใจภาษา
มีคนแนะนำให้ผมใช้วุ้นแปลภาษาของโดเรมอน
เผื่อจะช่วยให้คุยกับคนญี่ปุ่นรู้เรื่องได้บ้าง
10 นาทีผ่านไป ผมค่อยๆ เดินตามเขาขึ้นไปบนรถ
รถบัส บ้านเขาก็ไม่ต่างจากบ้านเราเท่าไร
แต่ที่นี้ถ้าเป็นรถที่วิ่งกลางคืนจะมีม่านสีดำ
ปิดทั้งคันรถ เพื่อไม่ให้แสงข้างนอกรอดเข้ามา
เดินมายังไม่ทันจะหย่อนตูดถึงเบาะ คนข้างๆที่นั่งผมก็ทักทาย
ถามว่ามาจากไหน
" Thailand "
ผมตอบไปด้วยความภาคภูมิใจในความเป็นไทย
" สวัสดีครับ มาเที่ยวญี่ปุ่นหรอครับ "
เฮ้ย เขาพูดไทยได้
ผมคิดในใจสงสัยจะกินวุ้นแปลภาษามาแน่ๆ
แต่คุยไปคุยมา เขาพูดไทยได้คล่องมากๆ
เขาบอกว่า เขาไปเมืองไทยบ่อย ปีละ 3-4 ครั้ง
เกือบ 10 ปีแล้ว โอ้วว
ผมรู้สึกอุ่นใจทันที ที่มีคนเข้าใจภาษาไทย
จากโตเกียว ถึงฮิโรชิม่า
ระยะทางพอๆกับ นั่งรถจากกรุงเทพ ไป ภูเก็ต
รถถึงสถานีฮิโรชิม่า 7.30น. เป๊ะๆ
ญี่ปุ่นนี้เขาตรงเวลาจริงๆ
การเดินทางเกือบ 10 ชม.ของผมยังไม่จบ
มันต้องนั่งรถบัสไปอีกชั่วโมง และนั่งเรือข้ามฝากต่อไปอีก
เลือกโฮสต์ซะไกล ก็ต้องไปให้ถึงละ
เมื่อลงจากรถ หรือไปยังที่ใหม่ๆ
คำที่ผมมักอุทานในใจ คือ
" กุจะไปทางไหนต่อดีวะ "
เพราะไม่รู้จะเดินต่อไปทางไหนจริงๆ
รู้สึกสับสน วุ่นวายแล้วตื้นเต้นไปหมด
แต่เมื่อรวบรวมสติได้ ป้ายกับแผนที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด
(ควรจะศึกษาเส้นทางดีๆ ว่าควรเดินไปทางไหน
และรถที่จะขึ้นจอดอยู่ป้ายไหน)
ผมใช้เวลาไม่นานนักก็เจอป้าย ตามที่จดไว้
เผื่อความแน่ใจ ผมก็เลยถามลุงกับป้าที่นั่งอยู่
ป้าพอพูดภาษาอังกฤษได้ เลยบอกผมว่า
เขาไปทางเดียวกัน แต่เขาจะลงก่อน
ผมต้องไปต่อ แค่นี้ผมก็ใจชื่นแล้ว
นั่งไปสักพัก ป้าก็ยื่นกล่องข้าวมาให้
ในนั้นมี ข้าวปั้น 1 ก้อน ไข่ต้มครึ่งฟอง
บ๊วยดอง และขิงดอง
ไอ้ 2 อย่างแรกนั้นโอเคอยู่ แต่ 2 อย่างหลังนี่
ปกติผมจะไม่แตะมันด้วยซ้ำ
แต่ผมก็กินหมดด้วยความซาบซึ้งในน้ำใจ
ผมรู้สึกว่า ' มันอร่อยกว่าปกติ '
เมื่อถึงสถานีที่ลุงกับป้าต้องลง
เราโบกมือลา ผมโค้งคำนับ
รถบัสยังคงวิ่งต่อไป..
ไม่นานนักก็ถึงท่าเรือ
ผมรีบซื้อตั๋วแล้ววิ่งขึ้นเรือทันที
ไม่รู้ว่าถึงฝั่งแล้วผมจะต้องเจอกับสถานการณ์แบบไหน
โฮสต์จะเป็นยังไง ผมจะได้ทำงานแบบไหน
แต่ผมเชื่อว่า 'ความสนุก' รอผมอยู่
-------- TIPS --------
- ผมเลือกใช้บริการของ willer bus เพราะมันถูกกว่านั่งรถไฟ ลองเข้าไปหาข้อมูลได้ที่
http://willerexpress.com/st/3/en/pc/buspass/index.php
- จะมีราคาบัตรเหมา 3 วัน 10000 yen แนะนำให้วางแผนการเดินทางไปพร้อมกับการเลือกโฮสต์
- หากต้องการมายังเกาะ oosakikamijima หรือโฮสต์เดียวกับผม จากสถานีฮิโรชิม่า
ให้นั่งรถบัสชื่อ kaguya himego ที่ ชานชาลา C หมายเลข 12 มาลงยัง takehara port
ขอให้สนุกกับการเดินทางครับ
0 comments:
Post a Comment