Thursday, February 2, 2012

Enjoy the journey BKK - CAM - VN (The Begin)

ห่างหายจากการอัพบล๊อกไปเป็นเดือนเลย แหะๆ :P
ขอโทษที่ให้รอนาน(มีคนรอด้วยหรอฟระ - -)


ช่วงปีใหม่ที่ผ่านผมได้มีโอกาสเดินทางไปเวียดนามครับ 
ไปกับเพื่อนและพี่ๆรวมชีวิตได้ 4 คน
การไปเวียดนามครั้งนี้ต่างจากทริปโดยทั่วๆไปตรงที่ เรานั่งรถบัสกันไปครับ


24 ธ.ค. 54 - 4 ม.ค.55

การเดินทาง ประมาณ 2,000 กิโลเมตร จาก

กรุงเทพฯ > เสียมเรียบ > พนมเปญ > โฮจิมินห์ซิตี้ >
ดาลัท > มุยเน่ > โฮจิมินห์ซิตี้ > กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ)









จุดเริ่มต้นการเดินทาง


 ณ วันที่ 22 พย 2554

ผมกำลังนั่งอยู่หน้าคอม, เพื่อรวบรวบข้อมูล และวางแผนการเดินทางในช่วงปีใหม่
ปีนี้เป็นปีที่ผมไม่ค่อยได้เที่ยวไหนเลย เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ช่วงสิ้นปีนี้ผมได้หยุดถึง 
10 วัน นานขนาดนี้เลยต้องหาเรื่อง ออกเดินทางสักหน่อย
(พอถึงตอนนั้นดันไม่ได้หยุดยาว ก็เลยต้องโดดงานไป )

ก่อนหน้านี้ช่วงกลางๆปี   ผมได้รู้จักกับ Vinh (หวึ้น)

Vinh เป็นชาวเวียดนาม เข้ามาทำแอนิเมทที่บริษัทเดียวกับผม  ได้ประมาณ 3-4 เดือน 
ผมได้อาสาเป็นไกด์ พาเขาเที่ยวในไทย   ก่อนเขากลับเวียดนาม เขาได้เอ่ยปากชวนผมว่า 
"หาโอกาสมาเที่ยวเวียดนามให้ได้นะ  เก็บเงินและหาเวลามา เขาจะอาสาพาเที่ยวเอง"

ผมเลยคิดว่า ปีใหม่ ปีนี้ไป 'เวียดนาม' ละกัน

แต่หลังจากนั้น ผมได้คุยกับ 'พี่กั๊ก'  พี่กั๊ก เป็น รุ่นพี่ที่มหาลัย รุ่นพี่ที่ทำงาน
และยังเป็นรุ่นพี่แบกแพคเกอร์อีก ผมถามเรื่องแผนการเที่ยวในช่วงปีใหม่ของเขา

“ พี่กั๊ก ปีใหม่ปีนี้ไปไหนอ่ะ พี่”

“ แชงกรีล่า ”

“ แชงกรีลา นี่มันที่ไหนอะพี่ ” 

“จีน”

“โหห ไกลโคตร”

“นั่งรถไปนะ..”

“โหหหหห” ห ยาวมากขึ้นกว่าเดิมตามความตกใจของผม
 (นั่งรถไป ผมคิดในใจ.... แม่งไกลฉิบ)

“สนใจป่าวว”

“สนพี่ แล้วไปกี่วันอะ แล้วงบเท่าไร”

10 กว่าวัน น่าจะ 25,000


เราคุยถึงแผนการเดินทาง....

แค่ฟังแผนการก็น่าไปแล้วอะ แต่มันติดตรงที่ค่าใช่จ่ายที่จะต้องเสียไปมันเยอะเหมือนกันนะ
อาจจะเก็บตังค์ไม่ทัน....  ผมเลยยังไม่ได้ตัดสินใจในทันที 

แต่ 'โจ้' เพื่อนที่มหาลัย และเพื่อนที่ร่วมเดินทางไปลาวด้วยกันในปีที่แล้ว 
ยุยงผมว่า "เฮ้ยย ไป เวียดนาม  เมิงจะไปเมื่อไรก็ได้ Vinh ก็ยังอยู่   
แต่แชงกรีล่ามันไม่ได้มีโอกาสไปได้ง่ายๆนะเว้ย ยิ่งทริปไกลๆอย่างนี้หาเพื่อนไปยาก"  

ผมเลยขอเวลามาคิด ดู  ก่อน...

หลังจากนั้นไม่นาน, ผมเลยตัดสินใจ เปลี่ยนแผนจากเวียดนาม ไปจีน

เอาวะ!! ตังค์ไม่มี  กูกู้พ่อ กู้แม่มาก่อนก็ได้ นานๆทีจะได้ไปไกลๆ
เลยตัดสินใจบอกพี่กั๊กไปว่า “พี่ครับ ผมขอร่วมเดินทางไปด้วย”
และได้บอกลาพ่อกับแม่ว่า ปีใหม่ปีนี้สวีทกัน 2 คน ละกันนะ ^^

แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อน้ำได้ เข้าท่วมในพื้นที่ภาคกลาง หนักยาวมาถึงกรุงเทพฯ
และปริมณฑล  บ้านหลายหลังเกิดปัญหาน้อง “น้ำ” มาเยี่ยมเยียน 
และเข้าไปในบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต  พี่กั๊กก็หนึ่งในนั้น

“เออ พี่ว่า...พี่คงไม่ไปแชงกรีล่าละนะ เพราะน้ำท่วมบ้าน อาจต้องใช้เงินไปซ่อมบ้านนะ”
“อ่าา ไม่เป็นไรครับพี่ งั้นผมไปแผนเดิมละกัน ผมอาจจะไปเวียดนามแทน....”


…........................................................


พูด ถึงจะไป  เวียดนาม ผมอยากไป “ซาปา” มาก เพราะภาพเมืองที่เต็มไปด้วยหมอกหมอก 
และหุบเขา มันชวนให้ผมไปสัมผัสบรรยากาศเสียจริงๆ ยิ่งได้ข่าวว่าปีที่แล้วหิมะตกด้วย
อยากหนาววว!!!

แต่ vinh เป็นคนกรุง บ้านอยู่โฮจิมินห์ซิตี้ หรือ ไซง่อน
ซาปาอยู่เหนือ  ไซงอนอยู่ใต้ ระยะทางไกลพอๆกับ เชียงใหม่ หาดใหญ่เลยทีเดียว

เออ...เอาไงดีวะ ให้เขาถ่อมาถึงซาปาก็ไกลอยู่นะ เอาเป็นว่าเราถ่อไปหาเขาแทนดีกว่า
ผมก็คิดย้อนกลับไปถึงแผนการเดินทางของพี่กั๊ก ที่จะนั่งรถไปแชงกรีล่า
ทำไมเราไม่นั่งรถ ไปเวียดนามบ้างวะ น่าจะมันส์ดีเหมือนกันนะ

ผมก็เลยนั่งหาข้อมูลนิดหน่อยๆเกี่ยวกับการนั่งรถไปเวียดนาม เฮ้ย! เฮ้ย!
(ผมอุทานในใจไม่มีใครได้ยิน)
เฮ้ย!!! มันต้องผ่านเสียมเรียบ ผ่านนครวัด...กูจะได้ไปนครวัดด้วยเว้ยย

เอาเป็นแผนนี้ละ 5555

กรุงเทพฯ - เสียมเรียบ - โฮจิมินห์ซิตี้

(ผมลองเสิชดูขำๆว่า ถ้าผมจะเดินจากบ้านผม ไปบ้านเขาจะใช้เวลาเท่าไร สรุป 7 วันกับ 
อีก4ชม.ครับ อื้มลองเดินไปดีมั้ย ^^)

…..........................................................


เพื่อนร่วมเดินทาง

หลังจากที่ผมเปลี่ยนใจมาเที่ยวเวียดนามแทนแล้ว ผมก็ไม่ลืมที่จะชวนโจ้  
โจ้ ยังคงลังเลเรื่่องงานเพราะไม่แน่ใจว่างานจะเข้าช่วงสิ้นเดือนรึป่าว
ผมก็อาจจะงานเข้าเช่นกัน แต่ ณ นาทีนี้ กูอยากไป อะไรก็ไม่สน
สุดท้ายเพื่อนโจ้ก็ตัดสินใจร่วมวง

ระหว่างที่ผมหาข้อมูลเรื่องไปเที่ยวที่ทำงานอยู่นั้น พี่เต้ พี่ที่ทำงานที่สุดแสนจะกวน..
ก็ถามกวนๆว่า

“เฮ้ยทำไร."


“ดูที่พักอยู่พี่”

“จะไปไหน”

“เขมร”

“ไปนครวัดด้วยปะ ไปด้วยดิ”

สั้นๆ ง่ายๆอย่างนี้เลย ผมอาจจะลืมไปว่า  ผมเคยนั่งคุยกะพี่เขาถึงแผนการ 
ที่ผมอยากไปนครวัด แต่ดันมีปัญหาเรื่องเขตแดนกันพอดี เลยไม่ได้ไป 
ตอนนั้นพี่เขาก็สนใจไป แต่ตอนนี้ผมดันลืมชวน

ตามประสาคนกวนๆเชื่อไม่ค่อยได้เท่าไร ผมจึงถามเพื่อความแน่ใจอีกที

“ ไปแน่นะพี่เต้ ไปเวียดนามต่อด้วยนะ ”

“โอเค”

สมาชิกเพิ่มขึ้นมาอีกคน...

หลังจากนั้นไม่กี่วัน โปรแกรมแชตที่ทำงานก็เด้งขึ้นมา ผมเห็นชื่อพี่กั๊กขึ้น
เหมือนต้องการสื่อสารอะไรบางอย่างกะผม

“ตกลงเรายังไปเวียดนามอยู่ใช่ปะ”

“ไปครับ”

“งบเท่าไร”

“ไม่เกิน 15,000 ครับ เกินกว่านี้ก็ไม่มี แหะๆ”

“โอเคงั้นเราอาจจะไปด้วย”

ผมจึงเปลี่ยนมาเป็นคนสาธยายแผนการ การเดินทางให้พี่กั๊กฟังบ้าง
และแล้วสมาชิกในการเดินทางครั้งนี้ก็รวมตัวกันขึ้น....



ผม                พี่เต้               พี่กั๊ก                โจ้




1 comments: