หลายคนสงสัยว่า ไอ้ wwoof นี่มันคืออะไรวะ
วันนี้ผมเลยอยากแบ่งปันประสบการณ์ในการสมัครสมาชิก
เป็น wwoofer มาแบ่งปันกันครับ
เรามาเริ่มรู้จัก Wwoof กันก่อนดีกว่า
WWOOF หรือ เต็มๆว่า World Wide Opportunites on Organic Farms
เริ่มต้นขึ้นที่ประเทศอังกฤษเมื่อปี ค.ศ.1971 เมื่อ Sue Coppard เกิดไอเดียที่จะเชิญชวน
เหล่าอาสาสมัครผู้เบื่อหน่ายชีวิตในเมือง ลองมาใช้ชีวิตในชนบทดูบ้าง โดยมาลองทำงาน
ในฟาร์มออร์แกนิคช่วงสุดสัปดาห์ ปรากฏว่า ผลตอบรับค่อนข้างดีทำให้กิจกรรมนี้แพร่ขยาย
ไปอีกหลายประเทศทั่วโลก และเรียกกลุ่มคนเหล่านั้นว่า “ Wwoofer ”
การไป wwoof นั้นเราจะไม่ได้รับค่าจ้างเป็นตัวเงิน แต่จะทำงานเพื่อแลกกับอาหาร
และที่พักฟรีโดยทำงานวันละ 6 ชั่วโมงหรือแล้วแต่ตามตกลงระหว่างเรากับเจ้าของบ้าน (Host)
และที่พักฟรีโดยทำงานวันละ 6 ชั่วโมงหรือแล้วแต่ตามตกลงระหว่างเรากับเจ้าของบ้าน (Host)
การได้เข้าไปทำงานในฟาร์มไม่เพียงแค่ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ
แต่ยังได้แลกเปลี่ยนความเรียนรู้ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและก่อเกิดมิตรภาพ อีกด้วย
แต่ยังได้แลกเปลี่ยนความเรียนรู้ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและก่อเกิดมิตรภาพ อีกด้วย
ปัจจุบันนี้ประเทศไทยเองก็มี wwoof แล้วด้วยนะ ลองคลิ๊กเข้าไปที่
ทำไมผมถึงอยากจะไป wwoof ?
ผมรู้จักโครงการนี้จากหนังสือของเพื่อนที่ทำงานของผม เปิดอ่านผ่านๆ รู้แค่เพียงว่า
เราไปทำงานในฟาร์มในต่างประเทศ แลกกับการกินอยู่ฟรี ผมคิดว่า เฮ้ยโครงการนี้แม่งดีวะ
คงประหยัดค่ากินค่าที่พักไปได้เยอะ ถ้ามีเวลาก็น่าไป แต่ตอนนั้นผมเพิ่งเป็นเด็กหนุ่มเพิ่งเริ่ม
เข้าทำงาน ทำให้ผมหยุดความคิดนี้ไปในทันที
ผ่านไปเกือบ 3 ปี...
ในขณะที่ผมกำลังนั่งทำงานอยู่ ในหัวผมมันก็คอยแต่คิดอยากจะไปเที่ยว
อยากทำอะไรใหม่ ไปเจออะไรใหม่ๆ
อาจจะเพราะด้วยงานของผม ทำให้ผมอยู่แต่หน้าคอมทั้งวัน
เคยนั่งๆทำงานอยู่แล้วรู้สึกเบื่อมั้ยครับ? มองไปทางไหนก็เจอแต่กำแพงคอนกรีต
ตื่นเช้าขึ้นมา
แปรงฟัน
อาบน้ำ
ออกจากบ้าน
นั่งรถไปทำงาน
ทำ
ทำ
ทำ
นั่งรถกลับบ้าน
เปิดคอม เล่นfb อ่านเวบ อ่านหนังสือ
อาบน้ำ
นอน
(อ่านใหม่อีกรอบ)
ผม รู้สึกอึดอัดกับการดำเนินชีวิตที่วนลูป หรือเป็นวัฐจักรแบบนี้ทุกวัน
หลายๆหนังสือที่ผมอ่านในขณะนั้น ได้พยายามบอกกับผมว่า
“ลองถามใจตัวเองดูสิ ว่าสิ่งที่คุณทำในปัจจุบันนี้ คือสิ่งที่คุณต้องการจริงๆนะหรือ”
ผมลองถามใจตัวเองดู....คำตอบที่ได้คือ ไม่ใช่
ความสุขของผมที่มีหายไปกับการทำงาน
ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
เพราะไม่ชอบ
เพราะไม่ใช่
เพราะกดดัน หรืออะไรก็ตาม..
ทำให้ผมอยากจะหนีจากมัน
แม้ผมจะลองอดทนทำดู สู้มันไปตั้งหลายครั้ง
แต่ก็ทำอะไรกับความรู้สึกเบื่อหน่ายนี้ไม่ได้สักที
อาจจะเพราะมันเกิดที่ใจของผมเอง
ผมเลยมีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เปลี่ยนสถานะที่เป็นอยู่ในตอนนี้
ผมจะออก ผมจะไปเที่ยว และผมจะไปญี่ปุ่น
คำ ว่า wwoof เข้ามาในหัวผมอีกครั้ง ผมนั่งหาข้อมูล ประสบการณ์ของคนที่เคยไป
และตามหาหนังสือ “ปฏิบัติการบุกญี่ปุ่น” ของพี่ดนัย
หนังสือที่ผมเคยเปิดอ่านผ่านๆสมัยที่ผมเริ่มทำงาน
มันทำให้ความอยากไปของผมเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะไป wwoof
ผมจะลองไปใช้ชีวิตกับคนแปลกหน้า แปลกภาษา
ไปทำฟาร์ม ไปเป็นพี่อาทิจในแดนอุทัย :P
(พี่อาทิจที่หมายถึงคือ ณเดช ที่เล่นในเรื่อง ธรณีนี่นี้ใครครอง)
“เฮ้ยแต่เราพูดภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ได้ ภาษาอังกฤษก็ไม่คล่องแล้วจะไปได้หรอวะ”
“เอาน่าา ลองไปดู” ผมย้ำกับตัวเองอีกครั้ง
(เพี้ยนจนคุยกับตัวเองได้แล้ว)
(แต่ ถ้าใครอยากจะไปเพราะอยากไปเรียนรู้การทำฟาร์มและเปลียนวัฒนธรรม หาประสบการณ์ใหม่ๆ ก็ลองไปดูก็ได้นะครับ ไม่จำเป็นต้องไปเพราะเบื่อชีวิตแบบผม :)
ลองถามตัวคุณดูนะ ว่า ณ ขณะนี้คุณมีความสุขกับชีวิตอยู่รึเปล่า?
ถ้าคำตอบคือ ไม่...คงต้องทำอะไรสักอย่างกับชีวิตแล้วละ
<< เริ่มต้นสมัคร wwoof >>
พี่อาทิจจจจ 555 well done with this entry ha so inspired :)
ReplyDeleteThank you for your comment :)
Deleteโชคดี มีความสุขนะครับพี่บราว :)
ReplyDeleteขอบคุณครับแซม ไว้จะแวะไปหา
Deleteพูด อ่าน เขียน "ญี่ปุ่น" ไม่ได้..
ReplyDeleteไม่ใช่ปัญหา พี่รับรอง
ลุยเลยบราวน์ เป็นตัวแทนพี่ด้วยนะ พี่ก็อยากทำอะไรแบบนี้เหมือนกัน (แต่ที่บ้านพี่คงไม่ยอม (กลับบ้านดึกยังไม่ได้เลย) เหอๆๆ)
ลุย!!!
โอ้สส!! ลุยโลด
Deleteละก็ลองหาโอกาสไปดูบ้างนะครับ
เอาให้ได้อีกอารมณ์ดีๆกลับมา~ ^^
ReplyDeleteหาอะไรใหม่ๆใส่ตัวดู :)
ReplyDelete